ปัจจุบันวงการรถยนต์ทุกสั่นคลอนด้วยการมาของ “รถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้า” ที่ทั้งประหยัดค่าน้ำมันในระยะยาว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้มและแถมยังมีฟังก์ชั่นสำหรับการใช้งานให้กับทุกๆ ท่านได้เป็นอย่างดีเลยหล่ะครับ แต่การใช้รถไฟฟ้าเดินทางในระยะไกล ก็ต้องอาศัยสถานีชาร์จที่เหมาะสมอีกด้วย วันนี้เราจึงจะพาท่านผู้อ่านไปทำความรู้จักกับ “สถานีชาร์จไฟฟ้ามีแบบใดบ้าง?” กันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันเล้ย!!
รู้จักกับ “สถานีชาร์จไฟฟ้า”
EV Charger หรือ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ทำหน้าที่เป็นตัวชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า โดยสามารถแบ่งการชาร์จออกเป็น 2 ประเภท คือ Normal Charge และ Quick Charge
●Normal Charge
เป็นการชาร์จด้วยไฟ AC โดยชาร์จผ่าน On Board Charger ที่ยู่ภายในตัวรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทำหน้าที่ในการแปลงไฟ AC ไปเป็นไฟ DC ขนาดของตัว On Board Charger จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อรถยนต์ ซึ่งขนาดของ On Board Charger จะมีผลต่อระยะเวลาในการชาร์จไฟของแบตเตอรี่รถยนต์
●Quick Charge
จะเป็นการชาร์จโดยใช้ตู้ EV Charger (สถานีชาร์จรถไฟฟ้า) ที่แปลงไฟ AC ไปเป็นไฟ DC แล้วจ่ายไฟ DC เข้าที่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าโดยตรง ซึ่งระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จจะน้อยกว่าแบบ Normal Charger หัวชาร์จ (SOCKET) ของตู้ EV Charger จะมีทั้งแบบที่เป็น AC และ แบบ DC ประเภทของหัวชาร์จจะขึ้นอยู่กับมาตรฐานของผู้ผลิตรถยนต์
การเลือกติดตั้ง EV Charger ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
การติดตั้งอุปกรณ์ EV Charger ตามสถานที่ต่างๆ จะเลือกตามความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการชาร์จ เช่น บ้านพัก ควรติดตั้ง EV Charger แบบ AC ก็เพียงพอ ถึงจะใช้เวลาในการชาร์จนาน แต่เวลาที่เราใช้ภายในบ้านก็ค่อยข้างนานเช่นกัน หรือ ถ้าต้องการตั้งเป็นสถานี EV Charger ที่ต้องการความเร็วในการชาร์จ ก็สามารถเลือกเป็นการชาร์จแบบ DC ซึ่งมีระดับการชาร์จถึง 3 ระดับ คือ DC destination , DC fast และ DC High Power ระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จจะน้อยลงตามลำดับ
แล้วรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นอย่างไรกันนะ
รถอี–พาวเวอร์ (E-Power) เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ เป็นเทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่างนิสสัน ซึ่งมีการผสมผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยหลักการง่ายๆ ของระบบอี-พาวเวอร์ ค่อนข้างคล้ายกับระบบไฮบริด คือประกอบด้วย เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ต่างกันที่ อี-พาวเวอร์ จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีเครื่องยนต์ขนาดเล็กทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ที่แบตเตอรี่และส่งพลังงานไปยังมอเตอร์ไฟฟ้า
แท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามีครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศไทยแล้วหรือยัง?
ณ ปัจจุบัน พื้นที่กรุงเทพมหานคร มีสถานีชาร์จไฟฟ้าครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ แต่ในต่างจังหวัดนั้น จะมีตามเส้นทางสายหลัก ณ ปั้มน้ำมันขนาดใหญ่ต่างๆ รวมไปถึงร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่อย่าง 7-Eleven ก็กำลังปรับปรุงเพื่อรองรับความต้องการใช้แท่นชาร์จไฟฟ้าเช่นกันครับ นอกจากนี้ยังมีสถานีชาร์จตามปั้มน้ำมันของทุกๆ แบรนด์เริ่มสร้างกันมากขึ้นอีกด้วยครับ
3 แนวทางการดูรถยนต์และสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ควรรู้
►การตรวจสอบอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
การตรวจสอบอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นประจำจะช่วยระบุสัญญาณการสึกหรอ การตรวจสอบอุปกรณ์เป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าความสมบูรณ์ของอุปกรณ์เป็นไปตามมาตรฐาน สัญญาณของการสึกหรอ ได้แก่ สายไฟชำรุด ขั้วต่อหลุดลุ่ย หรือขั้วต่อหลวม นอกจากนี้ ให้ความสนใจกับระยะห่างของแหล่งพลังงานจากสถานีชาร์จ ระยะทางอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของกระบวนการชาร์จ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่างสถานีชาร์จและแหล่งพลังงาน
►การทำความสะอาดอุปกรณ์ชาร์จ
อุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสัมผัสกับองค์ประกอบต่างๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การสะสมของคราบสกปรกและฝุ่นละอองบนสถานีชาร์จ เมื่อเวลาผ่านไป การสะสมตัวนี้สามารถขัดขวางการทำงานของอุปกรณ์ได้ การทำความสะอาดอย่างระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้อุปกรณ์ทำงานได้อย่างถูกต้อง ใช้ผ้าแห้งสะอาดเช็ดแท่นชาร์จ ภายนอก และสายไฟของอุปกรณ์ หลังจากตรวจสอบแล้ว ให้ขจัดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อาจสะสมอยู่ภายในแท่นชาร์จหรือบนส่วนประกอบต่างๆ
►การบำรุงรักษาอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นประจำ
การบำรุงรักษาอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อความเจริญของรถยนต์ไฟฟ้า อาจต้องทำความสะอาดสถานีชาร์จอย่างล้ำลึกเป็นประจำ วิธีนี้จะยืดอายุการใช้งานของสถานี เพิ่มความเร็วในการชาร์จ และทำให้อุปกรณ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด งานบำรุงรักษาอย่างละเอียดดังกล่าวรวมถึงการเปลี่ยนสายเคเบิล แม่เหล็ก และสายไฟของสถานีหากจำเป็น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์การชาร์จนั้นทันสมัยและใช้เทคโนโลยีล่าสุดเพื่อประสิทธิภาพของกระบวนการชาร์จ
และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “สถานีชาร์จไฟฟ้ามีแบบใดบ้าง?”ที่เราได้นำข้อมูลมาฝากท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านกันในข้างต้นนี้ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยๆ กันนะครับ